Page 98 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาคลองปะเหลียน
P. 98

3-32






                                   3)  หน่วยที่ดินในกลุ่มดินตื้นมีหินพื้นโผล่ มีเนื้อที่ 103,882 ไร่ หรือร้อยละ 15.88 ของ
                  พื้นที่ลุ่มน้้า ประกอบด้วย ดินตื้นในพื้นที่ลุ่ม ได้แก่ 25  25M  ดินตื้นในพื้นที่ดอน ได้แก่  45  45B  45Bb

                  45C  45gm  45gmb  45gmBb  51B  51C  51D  51E  และที่ดินหินโผล่ (RL) เป็นดินตื้นถึงชั้นลูกรัง มีเศษหิน
                  ก้อนหินปะปนอยู่ในเนื้อดินตั้งแต่ร้อยละ 35 โดยปริมาตรหรือมากกว่า ภายในความลึก 50 เซนติเมตรจาก

                  ผิวดิน หรือมีชั้นหินพื้นตื้นกว่า 50 เซนติเมตรจากผิวดิน ดินตื้นจะเป็นอุปสรรคต่อการชอนไชของราก
                  พืชลงไปหาอาหาร นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นดินน้อย ท้าให้มีความสามารถในการดูดซับธาตุอาหาร

                  และอุ้มน้้าต่้ามาก พืชจะขาดน้้าท้าให้เหี่ยวเฉาไวกว่าพื้นที่อื่น
                                แนวทางปรับปรุงแก้ไข  เลือกพื้นที่ที่มีหน้าดินหนาและไม่มีเศษหิน หรือก้อน

                  หินอยู่บริเวณหน้าดินมาก ท้าเกษตรกรรมแบบวนเกษตรหรือแบบผสมผสาน ไม่ท้าลายไม้พื้น

                  ล่าง ขุดหลุมปลูก พร้อมปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักอัตรา 25-50 กิโลกรัมต่อหลุม หรือปุ๋ยคอก                                                         3-32
                  อัตรา 10-20 กิโลกรัมต่อหลุม ร่วมกับปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูก มีระบบอนุรักษ์ดินและน้้า เช่น ใช้วัสดุ

                  คลุมดินหรือปลูกหญ้าแฝก เพื่อรักษาความชื้นและลดการกร่อนของดิน พัฒนาแหล่งน้้าไว้ใช้ใน

                  ระยะที่ฝนทิ้งช่วงนานหรือพืชขาดน้้า ส้าหรับในพื้นที่ที่มีหินกระจัดกระจายอยู่บนดินมาก ไม่

                  เหมาะสมต่อการเกษตร ควรปล่อยไว้ให้เป็นป่าธรรมชาติเพื่อเป็นแหล่งต้นน้้าล้าธาร

                                   4)  หน่วยที่ดินในกลุ่มที่มีความลาดชันสูง มีเนื้อที่ 170,833 ไร่ หรือร้อยละ 26.10 ของ
                  พื้นที่ลุ่มน้้า ได้แก่  พื้นที่ลาดชันเชิงซ้อน (หน่วยที่ดินที่ 62) ที่มีความลาดชันมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ หรือ

                  เป็นพื้นที่ภูเขา เป็นพื้นที่ไม่เหมาะสมต่อการเกษตรกรรม เนื่องจากยากต่อการจัดการและดูแลรักษา ถ้าใช้
                  มาตรการพิเศษในการอนุรักษ์ดินและน้้า ท้าให้เสียค่าใช้จ่ายสูงมาก และยังเป็นการท้าลายระบบนิเวศของ

                  ป่าอีกด้วย
                                   แนวทางปรับปรุงแก้ไข  ควรรักษาไว้ให้เป็นป่าธรรมชาติ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและ

                  เป็นที่เพาะพันธุ์ของสัตว์ป่า เป็นแหล่งต้นน้้าล้าธาร ถ้ามีความจ้าเป็นต้องน้ามาใช้ประโยชน์ทาง

                  การเกษตร ควรมีการส้ารวจดินและเลือกใช้พืชที่มีศักยภาพในการเกษตร เป็นดินลึกและมีความลาดชันไม่
                  สูงมากนัก โดยท้าการเกษตรแบบวนเกษตรและมีระบบอนุรักษ์ดินและน้้าที่เหมาะสมในกรณีที่เป็น

                  พื้นที่นอกเขตป่าไม้ตามกฎหมาย ดังนี้

                                  (1)   ระบบอนุรักษ์ดินและน้้า
                                       วิธีการอนุรักษ์ดินและน้้า คือ วิธีการที่น้ามาใช้ในพื้นที่หนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์

                  เพื่อยับยั้งหรือชะลออัตราการชะล้างพังทลายของดิน โดยอาศัยหลักการส้าคัญ คือ เมื่อฝนตกลงมา

                  ในที่ใดที่หนึ่งจะพยายามให้มีการเก็บกักน้้าไว้ ณ ที่นั้นเพื่อให้น้้าไหลซึมลงไปในดินเป็นประโยชน์

                  แก่พืชที่ปลูก ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 วิธีคือ (1) วิธีการอนุรักษ์ดินและน้้าโดยใช้ระบบพืช และ (2) วิธีการอนุรักษ์ดิน
                  และน้้าโดยใช้วิธีกล








                                                                        กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103