Page 67 - การวิเคราะห์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคมเพื่อวางแผนการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำยมตอนล่าง ปีการผลิต 2544/45
P. 67

4-3




                     ตนทุนผันแปรเฉลี่ยไรละ 13,378.88  บาท  และไดรับผลตอบแทนสุทธิทั้งหมดเฉลี่ยไรละ  10,580.27 บาท

                     มีอัตราสวนระหวางผลตอบแทนตอการลงทุนเทากับ 1.87  นั้นแสดงวา  เกษตรกรลงทุนไป  1  บาท  จะไดรับ
                     ผลตอบแทนหลังจากหักตนทุนแลวเปนเงิน  87 สตางค  หรือคิดเปนอัตราผลตอบแทนรอยละ  87  ของ

                     ตนทุนทั้งหมด (ตารางที่ 4-1)

                                ในการทํานา  2  ครั้ง ไดแก ขาวเจานาปรังหวานน้ําตมครั้งที่ 1 ตามดวยขาวเจานาปรังหวาน

                     น้ําตมครั้งที่ 2 โดยครั้งที่ 1 ไดผลผลิตเฉลี่ยไรละ 897.40 กิโลกรัม และครั้งที่ 2 ไดผลผลิตเฉลี่ยไรละ 930.19

                     กิโลกรัม รวมการทํานา 2 ครั้ง มีมูลคาผลผลิตเฉลี่ยไรละ  6,743.81 บาท ไดรับผลตอบแทนเหนือตนทุน

                     ผันแปรและผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ยไรละ  3,060.22  บาท และ  2,402.34  บาท ตามลําดับ และมีอัตรา
                     สวนระหวางผลตอบแทนตอการลงทุนเทากับ 1.55  หรือคิดเปนกําไรเฉลี่ยรอยละ 55 ของการลงทุน

                     ทั้งหมด  จะเห็นไดวาการทํานาแลวตามดวยการปลูกยาสูบจะมีอัตราสวนระหวางผลตอบแทนตอการลงทุนดี

                     กวาการทํานา 2 ครั้ง (ตารางที่ 4-1)

                                หนวยที่ดินที่ 4I  มีการใชประโยชนที่ดิน 2 ประเภท  ไดแก   (1) ขาวเจานาปหวานน้ํา
                                               3
                     ตม-ถั่วเขียวผิวดํา   (2) ขาวเจานาปรังหวานน้ําตม    สําหรับการปลูกพืชครั้งที่  1 คือ ปลูกขาวเจานาปหวาน

                     น้ําตม ไดผลผลิตเฉลี่ยไรละ 496.71 กิโลกรัม  หลังทํานาเสร็จทําการปลูกพืชครั้งที่ 2 คือ ถั่วเขียวผิวดํา ได
                     ผลผลิตเฉลี่ยไรละ 186.52 กิโลกรัม รวมพืชทั้ง 2 ชนิด คือ ขาวเจานาปหวานน้ําตมตามดวยถั่วเขียวถั่วดํา จะ

                     มีมูลคาผลผลิตเฉลี่ยไรละ 4,355.79 บาท    ไดรับผลตอบแทนเหนือตนทุนผันแปร  หรือกําไรขั้นตนเฉลี่ยไร

                     ละ 1,174.26 บาท   และมีผลตอบแทนสุทธิหรือกําไรสุทธิเฉลี่ยไรละ 367.61 บาท ซึ่งผลตอบแทนที่ไดใน
                     สวนของกําไรไดมาจากถั่วเขียวผิวดํา    ขณะที่ขาวเจานาปหวานน้ําตมจะใหผลตอบแทนที่ขาดทุน

                     เนื่องจากมีการใชตนทุนในสวนที่เปนคาแรงงานเครื่องจักรสูงทั้งที่เปนเงินสดและไมเปนเงินสด  ดังนั้น

                     จะมีอัตราสวนระหวางผลตอบแทนตอการลงทุนเทากับ 1.09  หรือคิดเปนอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยรอยละ

                     9.00 ของตนทุนทั้งหมด

                                สวนของเกษตรกรที่ทํานาเพียงครั้งเดียว  คือ  ขาวเจานาปรังหวานน้ําตม ไดผลผลิตเฉลี่ยไร

                     ละ 842.12 กิโลกรัม มีมูลคาผลผลิตเฉลี่ยไรละ 3,082.16 บาท ไดรับผลตอบแทนเหนือตนทุนผันแปรและ
                     ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ยไรละ 1,736.72 บาท  และ 1,347.85 บาท  ตามลําดับ มีอัตราสวนระหวางผลตอบ

                     แทนตอการลงทุนเทากับ 1.78   ซึ่งแสดงวาเมื่อเกษตรกรลงทุนในการปลูกขาวไป 1 บาท  จะไดรับผลตอบ

                     หลังจากหักตนทุนแลวเปนเงิน  78 สตางค   หรือคิดเปนอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยรอยละ 78 ของตนทุนทั้ง

                     หมด จะสังเกตไดวาการปลูกขาวแตเพียงอยางเดียวจะใหอัตราสวนระหวางผลตอบแทนตอการลงทุนดีกวา
                     การปลูกขาวเจานาปหวานน้ําตมตามดวยถั่วเขียวผิวดํา (ตารางที่ 4-1)
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72