Page 14 - แผนบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำโดมใหญ่ อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
P. 14

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                          2






                 1













                    ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เกษตรกรท าการเกษตรกรรม หรือร้อยละ 51 ของพื้นที่
               ประเทศ โดยมีพื้นที่เกษตรกรรม 167 ล้านไร่ ซึ่งเป็นแหล่งที่ปลูกพืชเศรษฐกิจที่ส าคัญของประเทศ ได้แก่

               ข้าว 68.64 ล้านไร่ อ้อย 16.53 ล้านไร่ มันส าปะหลัง 13.13 ล้านไร่ ข้าวโพด 3.77 ล้านไร่ ไม้ผล 10.00

               ล้านไร่ พืชสวน 0.91 ล้านไร่ และ ยางพารา 22.62 ล้านไร่ (กองนโยบายและแผน, 2561 ; ส านักงาน
               เศรษฐกิจการเกษตร, 2561) พื้นที่ดังกล่าวมักประสบปัญหาขาดแคลนน้ าในฤดูแล้ง ท าให้การใช้ประโยชน์

               ทรัพยากรดินได้ไม่เต็มศักยภาพ จ าเป็นต้องได้รับการพัฒนาแหล่งน้ าให้พอเพียงกับความต้องการของ

               เกษตรกร ประกอบกับในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ดินปัญหาทางการเกษตรกรรม โดยสามารถจ าแนกตาม
               สาเหตุของการเกิดได้ 2 ประเภท คือ (1) ดินปัญหาที่เกิดตามสภาพธรรมชาติ มีเนื้อที่รวม 60 ล้านไร่ ได้แก่

               ดินอินทรีย์ 0.34 ล้านไร่ ดินเปรี้ยวจัด 5.42 ล้านไร่ ดินทรายจัด 11.86 ล้านไร่ ดินตื้น 38.19 ล้านไร่ ดินเค็ม
               4.20 ล้านไร่ (บางพื้นที่พบคราบเกลือและมีผลกระทบจากคราบเกลือมีเนื้อที่ 11.50 ล้านไร่) และ (2) ดิน

               ปัญหาที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น ดินดาน ดินปนเปื้อน ดินเหมืองแร่ร้าง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมี

               ดินที่มีปัญหาเล็กน้อยที่เป็นข้อจ ากัดทางการเกษตร เช่น ดินกรด ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ า เป็นต้น (กรม
               พัฒนาที่ดิน, 2561) ปัญหาทรัพยากรดินดังกล่าวกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศและเป็นปัจจัยส าคัญที่ท าให้

               พื้นที่เกษตรน้ าฝนไม่สามารถก่อสร้างแหล่งน้ าขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจ านวนมากในการ
               วางระบบเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาดินเกิดเพิ่มมากขึ้น จนก่อความเสียหายในวงกว้าง ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

                    ปัญหาส าคัญอีกประการหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมในปัจจุบันเกิดจากการใช้ที่ดินและ

               การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นการเร่งให้เกิดกระบวนการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่
               เกษตรกรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการชะล้างพังทลายของดินเกิดจากกระบวนการที่ส าคัญ คือ

               กระบวนการแตกกระจาย เมื่อเม็ดฝนตกลงมากระทบกับก้อนดิน ท าให้ก้อนดินแตกเป็นเม็ดดินเล็กๆ ภายหลัง

               ที่เม็ดฝนกระทบก้อนดินแล้วน้ าบางส่วนก็จะไหลซึมลงไปในดิน เมื่อดินอิ่มตัวจนน้ าไม่สามารถจะไหลซึมไป
               ได้อีกแล้ว ก็จะเกิดน้ าไหลบ่าพัดพาเอาก้อนดินเล็ก ๆ ที่แตกกระจายอยู่บนผิวดินไปด้วยและพัดพาไป แล้ว

               ตกตะกอนทับถม เม็ดดินที่ถูกพัดพาไปกับน้ าจะไหลลงสู่พื้นที่ต่ า ท าให้เกิดการสะสมตะกอนของดินในที่ลุ่ม
               ต่ า การชะล้างพังทลายของดิน เกิดจากสาเหตุใหญ่ 2 ประการ คือ (1) การชะล้างพังทลายโดยธรรมชาติ

               เป็นการชะล้างพังทลายซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยมีทั้งน้ า และลมเป็นตัวการ เช่น การชะละลาย การ

               พัดพาโดยลมตามชายฝั่งทะเลหรือในทะเลทรายการพัดพาดินแบบนี้เป็นแบบที่ป้องกันไม่ได้ และถ้าเกิดมัก
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19