Page 20 - แผนบริหารจัดการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำห้วยยาง อำเภอศรีเทพ และอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์
P. 20
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
2
1
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เกษตรกรที่ท าการเกษตรอาศัยน้ าฝน มักประสบปัญหาขาด
แคลนน้ าในฤดูแล้ง ท าให้การใช้ประโยชน์ทรัพยากรดินได้ไม่เต็มศักยภาพ จ าเป็นต้องได้รับการพัฒนา
แหล่งน้ าให้พอเพียงกับความต้องการของเกษตรกร ประกอบกับพื้นที่ท าการเกษตรอยู่ในพื้นที่
ดินปัญหาทางการเกษตรกรรม โดยสามารถจ าแนกตามสาเหตุของการเกิดได้ 2 ประเภท คือ 1) ดินปัญหาที่เกิด
ตามสภาพธรรมชาติ มีเนื้อที่รวม 59.92 ล้านไร่ ได้แก่ ดินอินทรีย์ 0.34 ล้านไร่ ดินเปรี้ยวจัด 5.42 ล้านไร่ ดิน
ทรายจัด 11.86 ล้านไร่ ดินตื้น 38.19 ล้านไร่ ดินเค็ม 4.20 ล้านไร่ (บางพื้นที่พบคราบเกลือและมีผลกระทบ
จากคราบเกลือมีเนื้อที่ 11.50 ล้านไร่) และ 2) ดินปัญหาที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่น ดินดาน ดิน
ปนเปื้อน ดินเหมืองแร่ร้าง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีดินที่มีปัญหาเล็กน้อยที่เป็นข้อจ ากัดทางการเกษตร
เช่น ดินกรด ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ า เป็นต้น (กรมพัฒนาที่ดิน, 2561) ปัญหาทรัพยากรดินดังกล่าว
กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศและเป็นปัจจัยส าคัญที่ท าให้พื้นที่เกษตรน้ าฝนไม่สามารถก่อสร้างแหล่งน้ าขนาด
ใหญ่ได้ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจ านวนมากในการวางระบบเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาดินเกิดเพิ่มมากขึ้น
จนก่อความเสียหายในวงกว้าง ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
ปัญหาส าคัญอีกประการหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมในปัจจุบันเกิดจากการใช้ที่ดินและ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นการเร่งให้เกิดกระบวนการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่
เกษตรกรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการชะล้างพังทลายของดินเกิดจากกระบวนการที่ส าคัญ คือ
กระบวนการแตกกระจาย เมื่อเม็ดฝนตกลงมากระทบกับก้อนดิน ท าให้ก้อนดินแตกเป็นเม็ดดินเล็ก ๆ
ภายหลังที่เม็ดฝนกระทบก้อนดินแล้วน้ าบางส่วนก็จะไหลซึมลงไปในดิน เมื่อดินอิ่มตัวจนน้ าไม่สามารถจะ
ไหลซึมไปได้อีกแล้ว ก็จะเกิดน้ าไหลบ่าพัดพาเอาก้อนดินเล็ก ๆ ที่แตกกระจายอยู่บนผิวดินไปด้วยและพัด
พาไป และการตกตะกอนทับถม เม็ดดินที่ถูกพัดพาไปกับน้ าจะไหลลงสู่พื้นที่ต่ า ท าให้เกิดการสะสมตะกอน
ของดินในที่ลุ่มต่ า การชะล้างพังทลายของดิน เกิดจากสาเหตุใหญ่ 2 ประการ คือ 1) การชะล้างพังทลาย
โดยธรรมชาติ เป็นการชะล้างพังทลายซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยมีทั้งน้ าและลมเป็นตัวการ เช่น การชะ
ละลาย การพัดพาโดยลมตามชายฝั่งทะเลหรือในทะเลทราย การพัดพาดินแบบนี้เป็นแบบที่ป้องกันไม่ได้
และถ้าเกิดมักใช้เวลานาน เป็นการเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไปและช้ามาก และ 2) การชะล้างพังทลายโดยมี
ตัวเร่งที่มีมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงเข้ามาช่วยเร่งให้มีการกัดกร่อนเพิ่มขึ้นจากการชะล้างพังทลายโดยธรรมชาติ
เช่น การหักล้างถางป่าท าการเพาะปลูกอย่างขาดหลักวิชาการ ท าให้พื้นดินปราศจากสิ่งปกคลุม เกิดการ