Page 49 - การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลจำแนกประเภทที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ถาวรนอกเขตป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดชัยนาท
P. 49
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
39
4.3 กำรวิเครำะห์ข้อมูลเบื้องต้น
4.3.1 หำพื้นที่ด ำเนินกำร
จังหวัดชัยนำทเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ำไม้ถำวร จ ำนวน 2 ป่ำ จำกกำรตรวจสอบพบว่ำ
ในบริเวณเขตป่ำไม้ถำวรทั้ง 2 ป่ำ จะมีพื้นที่ดินของรัฐอื่นอีก 2 ประเภท คือ
1) เขตป่ำสงวนแห่งชำติ มีอยู่ 2 ป่ำ คือ “ป่ำเขำช่องลม และป่ำเขำหลัก” และ
“ป่ำเขำรำวเทียน”
2) เขตกำรปฏิรูปที่ดิน เป็นพื้นที่ที่ส ำนักงำนกำรปฏิรูปที่ดินได้รับมอบจำก
ป่ำสงวนแห่งชำติ ฉะนั้น พื้นที่ที่ ส.ป.ก. ได้รับมอบจะไม่เกินแนวเขตป่ำสงวนแห่งชำติ และจำกกำร
ตรวจสอบในบริเวณเขตป่ำไม้ถำวรทั้ง 2 ป่ำดังกล่ำว ไม่มีกำรท ำกำรส ำรวจจ ำแนกประเภทที่ดิน
ตำมมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มิถุนำยน 2525 พื้นที่ที่ ส.ป.ก. ได้รับจึงเป็นพื้นที่ที่ได้รับจำก
ป่ำสงวนแห่งชำติ ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ที่ได้รับจำกกำรจ ำแนกประเภทที่ดินในพื้นที่ป่ำไม้ถำวร จึงไม่ได้
น ำเขตกำรปฏิรูปที่ดินมำใช้ในกำรวิเครำะห์หำพื้นที่
กำรวิเครำะห์หำพื้นที่ป่ำไม้ถำวรที่ไม่ได้ส ำรวจจ ำแนกประเภทที่ดินตำมมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 22 มิถุนำยน 2525 เป็นกำรวิเครำะห์ข้อมูลแบบซ้อนทับข้อมูล (Overlay Analysis)
เป็นวิธีกำรวิเครำะห์หำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงข้อมูลเชิงพื้นที่มำกกว่ำหรือเท่ำกับ 2 ชั้นข้อมูลขึ้นไปให้
เหลือเพียงชั้นข้อมูลเดียว ตำมเงื่อนไขที่ได้จำกกำรวิเครำะห์ซึ่งอำจจะเป็นแบบคณิตศำสตร์หรือ
ตรรกศำสตร์ เพื่อได้มำซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องกำรบนพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ละชั้นข้อมูลที่น ำมำซ้อนทับ
จ ำเป็นต้องมีระบบพิกัดเดียวกัน ผลกำรซ้อนทับจะได้ชั้นข้อมูลใหม่ ในกำรด ำเนินกำรเป็นกำรซ้อนทับ
ชั้นข้อมูลประเภทเวกเตอร์ (Vector Ovelay) โดยใช้วิธีกำรลบข้อมูล (Erase) เป็นกำรน ำชั้นข้อมูลป่ำไม้ถำวร
ซ้อนทับข้อมูลป่ำสงวนแห่งชำติ และใช้ค ำสั่ง Erase ซึ่งผลลัพธ์ของค ำสั่งจะสร้ำงชั้นข้อมูลรูปปิด
ผลลัพธ์คือ ข้อมูลป่ำไม้ถำวรนอกเขตป่ำสงวนแห่งชำติ
เนื่องจำกป่ำไม้ถำวร “ป่ำเขำช่องลม และป่ำเขำหลัก” เป็นป่ำไม้ถำวรตำมเขตที่สงวน
ในแผนที่ท้ำยกฎกระทรวงเกษตร พื้นที่ป่ำไม้ถำวร “ป่ำเขำช่องลม และป่ำเขำหลัก” จึงเป็นแนวเขตเดียว
กับป่ำสงวนแห่งชำติ ป่ำไม้ถำวรป่ำนี้จึงไม่มีพื้นที่ป่ำไม้ถำวรนอกเขตป่ำสงวน จึงไม่ต้องวิเครำะห์หำพื้นที่
ในพื้นที่จังหวัดชัยนำทจึงวิเครำะห์เฉพำะพื้นที่ป่ำไม้ถำวร “ป่ำเขำรำวเทียน” เพียงป่ำเดียว (ดังแสดง
ในรูปที่ 4-2)