Page 96 - การศึกษาลักษณะและสมบัติของดินที่มีวัตถุต้นกำเนิดจากหินแกรนิตบริเวณจังหวัดอุทัยธานี

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
67

ดินที่ทําการศึกษา สวนใหญมีการกระจายอนุภาคขนาดทรายในชั้นดินบนและลดลงตาม
ความลึก อนุภาคดินเหนียวเพิ่มขึ้นตามความลึก เนื่องจากอิทธิพลของการเคลื่อนยายเชิงกลรวมกับ

การซึมชะ อนุภาคขนาดเล็กลงไปสะสมในชั้นดินลาง และการเคลือบอยูในผิวชองวางในดินและผิว
กอนดิน (Buol et al., 2003) สวนในดินลางตอนลางที่พบอนุภาคขนาดทรายที่มีปริมาณมากและมี

ขนาดใหญ เนื่องจากการสลายตัวของวัตถุตนกําเนิด (คณาจารยภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548) สวนชุดดิน

Nch ที่พบอนุภาคขนาดทรายที่มีปริมาณมากในดินลางตอนลางเนื่องจากตะกอนคนละชวงระยะเวลา
กับตะกอนน้ําพาชั้นบนที่ทับถมอยู

5.2.2 ปริมาณชิ้นสวนหยาบ (coarse fragments) ปริมาณรวมของชิ้นสวนหยาบในแตละหนาตัด
ดินที่ทําการศึกษา (ภาพที่ 5-14) พบวา

ชุดดิน Tas พบชิ้นสวนหยาบปริมาณปานกลางที่เปนเศษหินของหินแกรนิตในดินบน มี

ปริมาณมากที่ความลึก 30 เซนติเมตร และมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามความลึกจนถึงชั้น Cr
ชุดดิน Bar พบชิ้นสวนหยาบปริมาณเล็กนอยที่เปนเศษหินของหินแกรนิตตั้งแตดินบน มี

ปริมาณมากที่ความลึก 90 เซนติเมตร และมีปริมาณมากที่สุดในชั้น BCr

ชุดดิน Lsk พบชิ้นสวนหยาบที่เปนเศษหินของหินแกรนิตปริมาณมากตั้งแตความลึก 170
เซนติเมตร ลงไป

ชุดดิน Uti พบชิ้นสวนหยาบที่เปนการจับตัวของเหล็กและแมงกานีสออกไซด ในชั้น Btc

ชุดดิน Nch ไมพบชิ้นสวนหยาบเนื่องจากเปนตะกอนน้ําพาที่มีการคัดขนาดดี
Coarse fragments (%) Bulk density (g cm )
-3
0 20 40 60 80 100 1.2 1.4 1.6 1.8
0 0

20 20
40 40

60 60

80 80
depth (cm) 120 depth (cm)
100 100

140 120
140
160 160
180
180
200
200

ภาพที่ 5-14 กราฟแสดงปริมาณชิ้นสวนหยาบและความหนาแนนรวมของดินที่ทําการศึกษา