Page 59 - การศึกษาลักษณะและสมบัติของดินที่มีวัตถุต้นกำเนิดจากหินแกรนิตบริเวณจังหวัดอุทัยธานี
P. 59

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                        41







                                  2) เลือกชุดดินเปนดินตัวแทนหลัก โดยการวิเคราะหขอมูลรวมกับการตรวจสอบแผนที่ดิน
                       (การใหชื่อชุดดินใชชื่อสถานที่พบครั้งแรกเปนหลัก เชน ชื่อตําบล อําเภอ จังหวัด หรือชื่อของบริเวณที่

                       มีลักษณะเดนเปนที่รูจักกันอยางแพรหลาย และตองเปนชุดดินที่มีการกระจายตัวและมีปริมาณเนื้อที่
                       มากพอตามขอกําหนดหรือเปนชุดดินที่ยังขาดรายละเอียดที่จําเปนตอการแปลผลเพื่อการใชงาน

                       ทางดานตางๆ) แลวกําหนดบริเวณที่จะศึกษา 2-3 จุด ตามที่กําหนดไวในเบื้องตน เพื่อคัดเลือกชุดดิน

                       ที่เปนตัวแทนที่ดีที่สุด (ภาพที่ 4-1)
                               4.2.2 การปฏิบัติงานภาคสนาม

                                  1) การศึกษาลักษณะภูมิประเทศ ธรณีวิทยา สภาพแวดลอม การใชประโยชนที่ดิน และ
                       ศึกษาดินโดยใชสวานเจาะดินลึกประมาณ 2 เมตร เพื่อศึกษาหาตัวแทนของดินที่ทําการศึกษาโดย

                       ละเอียด เมื่อไดตัวแทนของดินแลวจึงทําการขุดหลุมดิน ขนาดกวาง x ยาว x ลึก เทากับ 2.0 x 2.0 x

                       2.0 เมตร ศึกษาโดยละเอียดตามชั้นความลึกของดินและทําคําอธิบายหนาตัดดินตามคูมือการทํา
                       คําบรรยายหนาตัดดิน (เอิบ, 2552; National soil survey center, 2012)

                                  2) การเก็บตัวอยางดิน

                                  เก็บตัวอยางตามชั้นกําเนิดดินตลอดหนาตัดดินใสถุงพลาสติกตัวอยางละประมาณ 2
                       กิโลกรัม เขียนชื่อดิน ชั้นดิน สถานที่เก็บใหเรียบรอยลงแผ่นปายผูกถุงตัวอยาง ( tag ) เพื่อนําไป

                       วิเคราะหคุณสมบัติทางกายภาพ ทางเคมี และองคประกอบทางแรของดิน  สําหรับชั้นดินที่มีปริมาณ

                       กอนกรวด  ลูกรัง เศษหิน ขนาดใหญกวา  2 มิลลิเมตร จะเก็บเฉพาะตัวอยางดินขนาดรอนผาน
                       ตะแกรงขนาดชองเปด 2 มิลลิเมตรเทานั้น ควรแยกกอนกรวดที่มีขนาดใหญกวาออก และชั้นนี้ตองมี

                       การเก็บตัวอยางดินสําหรับนําไปวิเคราะหหารอยละของปริมาณชิ้นสวนหยาบโดยปริมาตร โดยเก็บ
                       ตัวอยางดินและกอนกรวดในคราวเดียวกัน ประมาณ 500 กรัม และแยกสงตัวอยางดินจากดินถุงปกติ

                       เก็บตัวอยางดินที่ไมถูกรบกวนเพื่อศึกษาสมบัติทางกายภาพบางประการโดยใชกระบอกเก็บตัวอยาง
                       (core) จํานวนชั้นละ 3 ตัวอยาง

                               4.2.3 การเตรียมขอมูลและตัวอยางดินเพื่อการสงวิเคราะห

                                  1) รวบรวมตัวอยางดินที่เก็บมาแลว เพื่อคัดแยกชนิดและประเภทของตัวอยาง กอนที่
                       จะสงวิเคราะหรวมทั้งตรวจสอบความถูกตองของรายละเอียดตางๆ

                                  2) เตรียมตัวอยางดินกอนสงวิเคราะห โดยนําตัวอยางดินที่ถูกรบกวนมาผึ่งใหแหงในที่

                       รม หลังจากนั้นนําดินมาบดและรอนผานตะแกรงรอนขนาด 2 มิลลิเมตร เพื่อแยกกอนกรวด เศษหิน
                       และแร และเศษซากพืชออก ซึ่งจะนําไปใชในการวิเคราะหสมบัติทางกายภาพ ทางเคมี และทางแร

                       วิทยาของดิน สวนตัวอยาง กระบอกเก็บตัวอยาง (core) นํามาเปดฝาออกผึ่งใหแหงในที่รม
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64