Page 156 - การศึกษาลักษณะและสมบัติของดินที่มีวัตถุต้นกำเนิดจากหินแกรนิตบริเวณจังหวัดอุทัยธานี
P. 156

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       118







                                  2) การจัดการดิน ชุดดินบานไรเปนดินที่มีการอุมน้ําต่ํา ดังนั้นควรมีการจัดการน้ําที่
                       เหมาะสม พัฒนาแหลงน้ําและใหน้ําทีละนอย แตบอยครั้ง เชน การใหน้ําแบบหยด หรือระบบฉีดฝอย

                       หรือขุดบอเก็บน้ําประจําไรนา มีการเลือกชนิดพืชปลูกที่เหมาะสม ปลูกพืชที่ใชน้ํานอยและมีอายุสั้น
                       เชน ถั่วเขียว ขาวโพดฝกออน ขาวโพดหวาน เปนตน ปลูกพืชคลุมดิน พืชที่มีระบบใบหนาแนนหรือมี

                       ระบบรากแนนและแพรกระจายคลุมและยึดดิน เพื่อชวยใหดินมีสิ่งรองรับแรงปะทะจากเม็ดฝน การ

                       พัดพาของน้ําฝนและกระแสลมชวยลดความเร็วและการกระจายการไหลของน้ําที่ไหลบาบนผิวดิน ทํา
                       ใหน้ําซึมลงไปในดินมากขึ้น เพิ่มอินทรียวัตถุใหกับดิน ถาเปนพืชตระกูลถั่วจะสามารถตรึงไนโตรเจน

                       จากอากาศมาใชประโยชนเพิ่มเติมใหแกดิน ชวยรักษาความชุมชื้นและดูดซับธาตุอาหารในดิน หรือใช
                       วัสดุคลุมดิน โดยใชวัสดุอยางใดอยางหนึ่งปกคลุมผิวหนาดิน เพื่อการอนุรักษดินและน้ํา สวนใหญมัก

                       เปนวัสดุธรรมชาติ ไดแก เศษซากพืชหรือวัสดุเหลือใชทางการเกษตร นํามาคลุมโคนตนและระหวาง

                       แถวพืชที่ปลูก ในพื้นที่ที่มีความลาดชันมากควรทําการไถพรวนตามแนวระดับขวางความลาดชัน มี
                       มาตรการอนุรักษดินและน้ําที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เชน มีการทําคูรับน้ําขอบเขา ทําฐานปลูกหญา

                       แฝกเฉพาะตน หรือการทําขั้นบันได

                                  3) คําแนะนําการปลูกพืชจากโปรแกรมคําแนะนําการจัดการดินและปุยรายแปลงรุน 3.0
                                     (1) การปลูกไมผล มีความเหมาะสมดีมากในการปลูกไมผล (มะมวง มะขาม

                       มะพราว และขนุน ) มีคําแนะนําในการปลูกพืชดังนี้ การเตรียมดินปลูกไมผล ปรับปรุงดินดวยการ

                       ไถกลบพืชปุยสด หรือขุดหลุมปลูกใหมีขนาดใหญ 50x50x50 หรือ 75x75x75 เซนติเมตร ตามขนาด
                       ทรงพุมพืชที่นํามาปลูก ปรับปรุงหลุมปลูกดวยหนาดิน รวมกับการใสปุยหมักหรือปุยคอกและใช

                       ปุยเคมีตามความตองการของชนิดพืชที่ปลูก คําแนะนําการใชปุยเคมี  เรงตนใสเดือนละ 1-2 ครั้ง ใส
                       ปุยเคมีหลัก สูตร 15 -15-15  อัตรา  1.23  กิโลกรัมตอตน  ปุยเสริม ( K ) สูตร  0-0-60  อัตรา  0.05

                       กิโลกรัมตอตน ปุยไนโตรเจน สูตร 46-0-0 อัตรา 0.81 กิโลกรัมตอตน เพื่อบํารุงตน เรงดอกใสกอน
                       ออกดอก 1 เดือน ใสปุยเคมีหลักสูตร 15-15-15 อัตรา 0.97 กิโลกรัมตอตน ปุยเสริม (K) สูตร 0-0-60

                       อัตรา 0.10 กิโลกรัมตอตน ปุยไนโตรเจน สูตร 46-0-0 อัตรา 0.28 กิโลกรัมตอตน เพื่อกระตุนการ

                       ออกดอก เรงผลใสกอนการเก็บเกี่ยว 2 เดือน ใสปุยเคมีหลัก สูตร 15-15-15 อัตรา 0.66 กิโลกรัมตอตน
                       ปุยเสริม (K) สูตร 0-0-60 อัตรา 0.12 กิโลกรัมตอตน ปุยไนโตรเจน สูตร 46-0-0 อัตรา 0.56 กิโลกรัม

                       ตอตน เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิต

                                     (2) การปลูกมันสําปะหลัง และออย ไมคอยเหมาะสมในการปลูก เนื่องจากสภาพ
                       ภูมิประเทศมีความลาดชันสูงเกิดปญหาการชะลางพังทลายของดิน ถามีการปลูกควรใชวัสดุคลุมดิน

                       เพื่อปองกันเม็ดฝนกระทบผิวดิน เตรียมดินขวางความลาดเท สรางสิ่งกีดขวางทิศทางการไหลของน้ํา

                       ผิวดิน เชน คันดิน รองระบายน้ํา คันเบนน้ํา บอดักตะกอน หรือปลูกแถบหญาแฝกสลับกับพืชที่ปลูก
                       เปนแถวขวางความลาดเท ปญหาดินเปนทรายคอนขางจัด และมีความสามารถในการอุมน้ําต่ํา ควรใส
   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161