Page 107 - การศึกษาลักษณะและสมบัติของดินที่มีวัตถุต้นกำเนิดจากหินแกรนิตบริเวณจังหวัดอุทัยธานี

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
78

ชุดดิน Bar มีปริมาณเบสรวมที่สกัดไดอยูในระดับต่ําถึงปานกลาง มีคาอยูในพิสัย 4.06-14.10
เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น Ap

ชุดดิน Lsk มีปริมาณเบสรวมที่สกัดไดอยูในระดับต่ํามากถึงต่ํา มีคาอยูในพิสัย 1.55-3.76
เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น BA

ชุดดิน Uti มีปริมาณเบสรวมที่สกัดไดอยูในระดับต่ํามากถึงต่ํา มีคาอยูในพิสัย 1.12-5.81

เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น Bt1
ชุดดิน Nch มีปริมาณเบสรวมที่สกัดไดอยูในระดับต่ํามากถึงปานกลาง มีคาอยูในพิสัย

1.40-13.18 เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น BAg
ในชุดดิน Tas, Bar และ Nch อยูในระดับต่ํามากถึงปานกลาง มีแนวโนมลดลงตามความลึก

สวนชุดดิน Lsk และ Uti อยูในระดับต่ํามากถึงต่ํา โดยคาที่ไดมีความผันแปร การที่ปริมาณเบสรวมที่

สกัดไดมีแนวโนมลดลงตามความลึก และมีความแปรปรวนบางในดิน เปนผลมาจากอัตราการชะละลาย
ที่ไมเทากันในหนาตัดดิน และการที่พบปริมาณแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และโซเดียมสวน

ใหญมีคาอยูในปริมาณต่ําเนื่องจากวัตถุตนกําเนิดดินที่เปนหินแกรนิตมีปริมาณ แคลเซียม แมกนีเซียม

โพแทสเซียม และโซเดียม เปนองคประกอบอยูนอย (Sanchez et al., 1983; Hamdan and
Bumham, 1996; Boul et al., 2003)

5.3.6 ปริมาณกรดที่แลกเปลี่ยนได (extractable acidity) (ภาพที่ 5-21) พบวา

ชุดดิน Tas มีปริมาณกรดที่แลกเปลี่ยนไดอยูในระดับปานกลาง มีคาอยูในพิสัย 2.35-3.49
เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น BCr

ชุดดิน Bar มีปริมาณกรดที่แลกเปลี่ยนไดอยูในระดับปานกลาง มีคาอยูในพิสัย 2.43-3.78
เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น Ap

ชุดดิน Lsk มีปริมาณกรดที่แลกเปลี่ยนไดอยูในระดับต่ําถึงปานกลาง มีคาอยูในพิสัย
1.92-3.73 เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น Bt1

ชุดดิน Uti มีปริมาณกรดที่แลกเปลี่ยนไดอยูในระดับต่ําถึงปานกลาง มีคาอยูในพิสัย

1.65-2.57 เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น Btc2
ชุดดิน Nch มีปริมาณกรดที่แลกเปลี่ยนไดอยูในระดับต่ํามากถึงปานกลาง มีคาอยูในพิสัย

0.86-2.85 เซนติโมลตอกิโลกรัม มีคาสูงสุดในชั้น Btg2

ชุดดิน Tas, Bar และ Lsk อยูในระดับปานกลางลดลงตามความลึกซึ่งมีความสัมพันธกับ
ปริมาณอินทรียวัตถุ เนื่องจากอินทรียวัตถุสามารถดูดซับไฮโดรเจนไอออนไวไดหรือเกิดการสลายตัว

ของอินทรียวัตถุ ทําใหเกิดอนุมูลกรดในอินทรียวัตถุซึ่งจะแตกตัวใหไฮโดรเจนไอออน (Brady and

Weil, 2008) สวนชุดดิน Uti และ Nch อยูในระดับต่ํามากถึงปานกลาง มีความผันแปรไมตอเนื่อง
อาจเปนผลมาจากอัตราการชะละลายที่ไมเทากันในหนาตัดดิน